ไอแวน โทนี่ย์ หัวหอก เบรนท์ฟอร์ด เปิดอก ผิดหวังที่ถูก เอฟเอ ลงดาบแบนถึง 8 เดือน แต่บอกว่ามีความมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะกลับมาในเดือนมกราคม ปีหน้า

ไอแวน โทนี่ย์ กองหน้าคนเก่งของ เบรนท์ฟอร์ด สโมสรในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่ารู้สึกผิดหวังที่โดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) สั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเป็นเวลาถึง 8 เดือน

ก่อนหน้านี้ โทนี่ย์ โดนกล่าวหาว่าฝ่าฝืนกฎเกี่ยวกับการพนันของ เอฟเอ ด้วยการไปวางเดิมพันกับเกมฟุตบอลหลายครั้งในระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017 ไปจนถึงเดือนมกราคม ปี 2021 โดยตอนแรก เอฟเอ บอกว่าเขาฝ่าฝืนกฎถึง 262 ครั้ง ก่อนที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษจะยกเลิกความผิดไป 30 ครั้ง และ โทนี่ย์ ก็ยอมรับว่าทำผิดจริงในอีก 232 หนที่เหลือ

กระทั่งล่าสุด เอฟเอ ก็ตัดสินใจแบน โทนี่ย์ เป็นเวลานานถึง 8 เดือน นั่นหมายความว่าเขาต้องรอจนถึงวันที่ 16 มกราคม ปี 2024 กว่าที่จะกลับมาลงสนามได้ โดยเขายังโดนปรับเงินเป็นจำนวน 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 2.1 ล้านบาท) ด้วย

แข้งวัย 27 ปี เผยว่า "วันนี้ผมได้รับทราบถึงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลเป็นเวลา 8 เดือนของผมหลังจากที่คณะกรรมการด้านกำกับดูแลของ เอฟเอ ได้ทำการไต่สวนไปเมื่อวานนี้ แน่นอนว่าผมรู้สึกผิดหวังที่จะไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้เลยในอีก 8 เดือนต่อจากนี้"

"ตอนนี้มันยังไม่มีการเผยแพร่เอกสารที่อธิบายถึงเหตุผลในการตัดสินใจของคณะกรรมการ ดังนั้นตอนนี้ผมเลยไม่อยากจะแสดงความเห็นใดๆ มากไปกว่าการขอขอบคุณครอบครัวกับเพื่อนๆ ของผม, เบรนท์ฟอร์ด เอฟซี และแฟนบอลของเราที่คอยสนับสนุนผมอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ ตอนนี้ผมมุ่งมั่นกับการที่จะกลับมาเล่นเกมที่ผมรักในฤดูกาลหน้าอย่างเต็มที่"

เดลี่ เมล สื่อของอังกฤษ ระบุ ชีคห์ ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี่ ยื่นข้อเสนอขอซื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นครั้งสุดท้าย โดยเม็ดเงินยังต่ำกว่าของ เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ แต่ทางนักธุรกิจจากกาตาร์ยืนกรานว่าพร้อมที่จะล้างหนี้ให้ทันที

ชีคห์ ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล-ธานี่ มหาเศรษฐีจากกาตาร์ ยื่นข้อเสนออันใหม่เพื่อที่จะขอซื้อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยนี่จะเป็นการให้ข้อเสนอรอบสุดท้ายแล้วด้วย ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อของเมืองผู้ดี

ชีคห์ ยาสซิม เป็นแฟนตัวยงของ แมนฯ ยูไนเต็ด และพยายามที่จะเข้าเทคโอเวอร์ "ปีศาจแดง" ตลอดช่วงที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่ตระกูลเกลเซอร์ประกาศว่าพร้อมพิจารณาทั้งการขายขาดทีมและขายหุ้นบางส่วน แต่ไม่กี่วันมานี้มีกระแสข่าวว่า เซอร์ จิม แร็ตคลิฟฟ์ คู่แข่งอันดับ 1 ของ ชีคห์ ยาสซิม มีโอกาสดีกว่าที่จะได้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปครอง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เดลี่ เมล เปิดเผยว่า ชีคห์ ยาสซิม ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และตัดสินใจยื่นข้อเสนอเป็นรอบสุดท้าย โดยไม่ได้บอกว่ามันมีจำนวนเงินเท่าไหร่ แต่ระบุว่าเม็ดเงินมันเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแน่นอน เพียงแต่ในขณะเดียวกันก็ยังถือว่าเป็นจำนวนเงินต่ำกว่าข้อเสนอของ แร็ตคลิฟฟ์

ทั้งนี้ ข้อเสนอของ ชีคห์ ยาสซิม ยังยืนกรานว่าต้องการถือหุ้นในทีมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ทันทีด้วย ต่างกับของ แร็ตคลิฟฟ์ ที่จะถือหุ้น 50 เปอร์เซ็นต์ในอันดับแรกแล้วให้ตระกูลเกลเซอร์ยังถือหุ้นอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ โดยนักธุรกิจจากกาตาร์ยังเสนอที่จะล้างหนี้สินทั้งหมดที่ติดตัวอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในตอนนี้ให้ด้วย ซึ่งเชื่อกันว่าตัวเลขหนี้สินด้านนั้นอยู่ที่ 536 ล้านปอนด์ (ประมาณ 22,512 ล้านบาท) ในขณะที่ข้อเสนอของ แร็ตคลิฟฟ์ จะเป็นการบริหารหนี้จำนวนนั้น ไม่ใช่การเคลียร์หนี้ในทันที

เดลี่ เมล เสริมว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า แร็ตคลิฟฟ์ จะพยายามยื่นข้อเสนอครั้งใหม่เพื่อมาสู้กับ ชีคห์ ยาสซิม หรือยังมั่นใจว่าข้อเสนอเดิมดีพอที่จะโน้มน้าวใจตระกูลเกลเซอร์ได้ โดยไม่กี่วันก่อน อัฟราม เกลเซอร์ หนึ่งในพี่น้องของตระกูลเกลเซอร์ก็เดินทางไปที่โรงแรมซึ่งเป็นของคุณพ่อของ ชีคห์ ยาสซิม พอดี

อาร์เซน่อล จ่อทำลายสถิติการเป็นจ่าฝูงนานที่สุดแต่ต้องวืดแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในบั้นปลาย โดยพวกเขาก็เป็นเจ้าของสถิติเดิมเหมือนกัน

อาร์เซน่อล ชุดซีซั่น 2022-23 กำลังเข้าใกล้ที่จะทำลายสถิติการเคยนำเป็นจ่าฝูงในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากที่สุดต่อ 1 ฤดูกาลแต่สุดท้ายอดได้แชมป์ไปครอง

ฤดูกาลนี้ทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมาเกือบจะตลอดทั้งซีซั่นจนทำให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงเป็นเวลานาน และเคยมีช่วงที่นำห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เยอะพอตัว แต่พักหลังพวกเขาฟอร์มสะดุดติดๆ กันจนทำให้ร่วงมาเป็นอันดับ 2 และตอนนี้ "เรือใบสีฟ้า" ก็ขอแค่ 3 แต้มจาก 3 เกมที่เหลือเท่านั้นก็จะได้แชมป์ลีกไปครองแล้ว

ทั้งนี้ หากนับจนถึงปัจจุบันแล้วนั้น อาร์เซน่อล เคยมีช่วงเวลาที่นำเป็นจ่าฝูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเกมลีกทั้งหมดของฤดูกาล 2022-23 ซึ่งสถิติทีมที่เคยได้ใช้เวลาเป็นจ่าฝูงมากที่สุดแต่ไม่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครองก็เป็น "ไอ้ปืนใหญ่" เหมือนกัน โดยเกิดขึ้นในซีซั่น 2002-03 ที่ตอนนั้นพวกเขาได้เป็นจ่าฝูงถึง 71 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาทั้งหมดของฤดูกาลนั้น แต่สุดท้ายแชมป์ตกเป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

                                    อันดับทีมที่เคยได้อยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงนานที่สุดแต่ไม่ได้แชมป์
อันดับ
เปอร์เซ็นต์ช่วงเวลาที่เคยเป็นจ่าฝูง
1. อาร์เซน่อล 2002/03
71%
2. อาร์เซน่อล 2007/08     
57%
3. ลิเวอร์พูล 2018/19   51%
4. อาร์เซน่อล 2013/14
48%
*อาร์เซน่อล 2022/23
93% (ฤดูกาลยังไม่จบ)

อลีสซง เบ็คเกอร์ ประกาศชัด จะขอตอบแทน ลิเวอร์พูล ให้ได้ จากการที่ต้นสังกัดเคยช่วยให้ตนผ่านช่วงที่เสียคุณพ่อไปได้ พร้อมขอบคุณทุกคนของ "หงส์แดง" และคนในวงการลูกหนังทั่วโลกที่ช่วงนั้นให้กำลังใจตนเป็นอย่างดี

อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนตั้งใจจะอยู่ช่วยทีมไปอีกนานเพื่อตอบแทนต้นสังกัดที่เคยให้กำลังใจตนเป็นอย่างดีในตอนที่เสียคุณพ่อแบบกะทันหัน

เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 อลีสซง ได้รับข่าวร้ายเมื่อ โชเซ่ อโกสตินโญ่ บิดาของเขาเกิดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจมน้ำตรงทะเลสาบที่อยู่ใกล้กับบ้านพักของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นนายทวารชาวบราซิเลียนไม่สามารถเดินทางกลับไปร่วมงานศพของคุณพ่อที่บ้านเกิดได้เพราะตอนนั้นเชื้อโควิด-19 อยู่ในช่วงที่มีการระบาดหนักจนหลายประเทศสั่งจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้ อลีสซง ต้องร่วมชมพิธีศพแบบออนไลน์แทน

นายด่านวัย 30 ปี เผยว่า "ตอนนั้นผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชีวิตของผมจะต้องเจอกับช่วงเวลาแบบนั้น ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเสียพ่อหรือแม่หรือคนที่เรารักอย่างรวดเร็วหรือกะทันหันอย่างนั้น แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดมันก็มีหลายคนที่ต้องเสียคนที่รักไปเหมือนกัน และผมคิดว่าโลกอยู่ในสภาพที่ทุกคนพร้อมที่จะแสดงความรักต่อคนอื่น"

"ที่จริงมันไม่ได้มาจากคนที่ ลิเวอร์พูล เท่านั้นหรอกนะ แต่ยังไงซะบรรดาหนุ่มๆ (หมายถึงนักเตะ ลิเวอร์พูล) ของที่นี่ก็วางตัวได้ยอดเยี่ยมมากๆ ทุกคนเลย เช่นเดียวกับเหล่าสตาฟฟ์และแฟนบอล พวกเขารู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับผม และพวกเขาก็ผลักดันให้ผมไปข้างหน้า ผมสัมผัสได้ถึงความรักและแนวทางที่พวกเขารับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาช่วยผมกับครอบครัวของผมให้ผ่านช่วงเวลานั้นไปได้"

"มันไม่ได้มีแค่จากที่นี่ (แอนฟิลด์) เท่านั้น แต่ทุกคนในโลกฟุตบอลปฏิบัติกับผมดีมากๆ ผมรู้สึกซาบซึ้งสุดๆ ผมได้รับจดหมายจากกุนซือหลายคน และจากสโมสรบางสโมสรที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับจดหมายจากพวกเขาด้วยซ้ำ ทุกข้อความการให้กำลังใจมันผลักดันให้ผมเดินไปข้างหน้า"

"สิ่งที่ช่วยผมได้มากที่สุดคือศรัทธาของผมและสิ่งที่ผมเชื่อมั่น มันทำให้ผมยังใช้ชีวิตต่อไปแบบแข็งแกร่งได้, ทำให้ผมเดินไปข้างหน้าได้, ทำให้มองไปข้างหน้าได้, ทำให้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆ ได้ และทำให้ผมมีแรงกระตุ้นมากพอที่จะเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆได้"

"แน่นอนว่าตอนที่ผมต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรแห่งนี้น่ะผมก็รำลึกถึงเรื่องที่ว่าทุกคนเคยอยู่เคียงข้างผม ซึ่งผมก็อยากอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือสโมสรเช่นกัน รวมถึงช่วยสร้างประวัติศาสตร์ต่อไป และรักษาบรรยากาศแบบครอบครัวแบบที่เรามีอยู่ในตอนนี้ต่อไปด้วย"

ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตู แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด การันตีคว้ารางวัลถุงมือทองคำประจำศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นหนที่สองในชีวิตที่คว้ารางวัลที่มาครองได้

แม้ว่าทาง ดาบิด เด เคอา นายด่านชาวสแปนิช จะเจอเสียงวิจารณ์ถึงเรื่องฟอร์มการเล่นที่ผิดพลาดจนนำไปสู่การเสียประตูหลายครั้ง แต่หลังจากเจ้าตัวเก็บคลีนชีตได้ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 ก็เพียงพอต่อการคว้ารางวัลถุงมือทองคำประจำซีซั่นนี้

มือกาววัย 32 ปี เก็บคลีนชีตบนเวที พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 เป็นนัดที่ 16 นำหน้าคนอื่นที่ตามมาอย่าง แอร่อน แรมส์เดล, นิค โป๊ป และ อลีสซง เบ็คเกอร์ ที่ต่างเก็บไปคนละ 13 นัด ซึ่งถึงแม้ว่าผู้รักษาประตู 3 รายนี้จะยังเหลือเกมให้เก็บคลีนชีตอีกคนละ 3 นัด แต่ก็ไม่มีใครที่จะทำตัวเลขแซงหน้า เด เคอา ได้

ซึ่งนั่นหมายความว่า เด เคอา จะได้ครองรางวัลถุงมือทองคำแห่งศึก พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาลนี้แน่นอนแล้ว อยู่ที่ว่าจะได้รางวัลแบบเดี่ยว ๆ หรือครองร่วมกับคนอื่น ๆ แต่หากเขาเก็บเพิ่มได้อีก 1 นัดจาก 3 เกมที่เหลือก็จะทำให้ เด เคอา ครองรางวัลนี้แต่เพียงผู้เดียว

สำหรับ เด เคอา เคยคว้ารางวัลถุงมือทองคำมาแล้วหนึ่งครั้ง โดยครั้งก่อนเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาล 2017/18

ร้านพูลเมืองผู้ดี ยกให้ ชาบี อลอนโซ่ ขึ้นมาเป็นเต็ง 1 คุม สเปอร์ส ซีซั่นหน้า หลังปิดสวิตช์ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เรียบร้อย ขณะที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กับ แกรม พ็อตเตอร์ ก็ยังมีลุ้นเหมือนกัน

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมดังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวว่า จะไม่ดึง ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ อดีตเทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แล้ว หลังจากที่มีข่าวต่อเนื่องมานานนับตั้งแต่ปลด อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลียน เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

ในเวลานี้ "ไก่เดือยทอง" ให้ ไรอัน เมสัน ทำหน้าที่คุมทีมขัดตาทัพไปจนจบฤดูกาล และต้องสรรหากุนซือคนใหม่หลัง นาเกิลส์มันน์ จะไม่มากุมบังเหียน โดยมีข่าวกับทั้ง โรแบร์โต เด แซร์บี้  ของ ไบรท์ตัน, ชาบี อลอนโซ่ อดีตกองกลาง ลิเวอร์พูล ที่เวลานี้ไปคุม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และ แว็งซ็องต์ กอมปานี นายใหญ่ เบิร์นลี่ย์ ขณะที่ เมสัน ก็อยู่ในข่ายด้วยเช่นกัน

ด้าน เบตแฟร์ บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษ ยกให้ อลอนโซ่ เป็นเต็ง 1 ที่จะได้มาคุม สเปอร์ส ในฤดูกาลหน้า โดยมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 3/1 (แทง 1 จ่าย 3 ไม่รวมทุน) ขณะที่ อาร์เน่ สล็อต กุนซือ เฟเยนูร์ด ตามมาเป็นเต็งสองราคา 5/1 (แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน)

ส่วน กอมปานี ตามมาเป็นเต็ง 3 ต่อด้วย เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตผู้จัดการทีม เลสเตอร์ ซิตี้ รั้งเต็ง 4, หลุยส์ เอ็นรีเก้ อดีตกุนซือทีมชาติสเปน เต็ง 5 ขณะที่ แกรม พ็อตเตอร์ อดีตนายใหญ่ เชลซี ก็ยังอยู่ในข่ายมีลุ้นเช่นกันหลังรั้งเต็ง 6 ร่วม

อัตราต่อรองผู้จัดการทีม สเปอร์ส ในฤดูกาลหน้า

1. ชาบี อลอนโซ่  3/1

2. อาร์เน่ สล็อต  5/1

3. แว็งซ็องต์ กอมปานี  9/1

4. เบรนแดน ร็อดเจอร์ส 10/1

5. หลุยส์ เอ็นรีเก้  12/1

6. แกรม พ็อตเตอร์  14/1

6. ไรอัน เมสัน  14/1

6. เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ 14/1

9. อังเก้ ปอสเตโคกลู  25/1

9. รูเบน อโมริม  25/1

เจมี่ วาร์ดี้ ระบุ ถ้าเกิด เลสเตอร์ รอดจากการตกชั้นได้ในซีซั่นนี้มันก็จะเป็นความสำเร็จที่เหนือกว่าตอนได้แชมป์ลีกด้วยซ้ำ พร้อมบอกว่าตนรัก "สุนัขจิ้งจอก" มากๆ จนรู้สึกเจ็บปวดเหมือนกันที่ต้องเห็นสโมสรอยู่ในสภาพแบบนี้

เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าประสบการณ์สูงของ เลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่าถ้าหากทีมของตนรอดจากการตกชั้นในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาลนี้ได้แล้วนั้น มันก็จะถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าตอนที่ทีมได้แชมป์ลีกเมื่อซีซั่น 2015-16 อีก

ฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ ทำผลงานได้ย่ำแย่จนปัจจุบันอยู่ที่ 18 ของตารางคะแนนซึ่งเป็นโซนตกชั้นด้วยผลงาน 30 คะแนนจากการลงเล่น 35 นัด โดยพวกเขาตามหลัง เอฟเวอร์ตัน ทีมในโซนปลอดภัยอยู่ 2 แต้ม ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ เลสเตอร์ ตกอยู่ในสภาพนี้เป็นเพราะ วาร์ดี้ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งเหมือนเดิมได้ หลังจากทำได้เพียง 3 ประตูจากการลงเล่นในลีก 34 นัด

แข้งวัย 36 ปีกล่าวว่า "ในตอนนี้น่ะผมคิดว่ามัน (การรอดตกชั้น) จะถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันมีความสำคัญมากถึงขนาดนั้นนั่นแหละ มันเป็นงานที่ยาก ถ้าถามผมว่ากำลังรู้สึกยังไงแล้วล่ะก็แค่คำว่า เจ็บปวด ก็อาจจะไม่รุนแรงพอด้วยซ้ำ ผมอยู่กับทีมมาอย่างยาวนาน เคยผ่านทั้งช่วงขึ้นๆ ลงๆ มาตลอดเวลาที่ผมอยู่กับที่นี่ ผมไม่เคยอยากให้เรามาเจอกับสถานการณ์แบบนี้อีกแล้ว ดังนั้นมันเลยทำใจยอมรับได้ยากที่มาเห็นว่าเราต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้"

"ผมรักสโมสรแห่งนี้ ส่วนตัวแล้วน่ะสิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากๆ ผมต้องเป็นคนที่กล้าลุกขึ้นมาแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องนี้ ผมต้องเล่นให้เต็มที่และพยายามช่วยทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"

แมนฯ ซิตี้ ทีมยักษ์ของเมืองผู้ดีได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่นนี้โดยเฉพาะศึก พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าจะเพิ่มโควต้าถ้วยหูใหญ่ให้กับสโมสรในอังกฤษเพิ่มเป็น 5 ทีมหรือไม่

หลังบุกไปตีเสมอ เรอัล มาดริด 1-1 ในเกมแรกของรอบตัดเชือก ถ้วยบิ๊กเอียร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เรือใบสีฟ้า ก็ได้รับการคาดหมายว่าจะสยบ ราชันชุดขาว ในบ้านได้เพื่อเข้าไปชิงชนะเลิศรอดวลกับสองทีมแห่งเมือง มิลาน

ขณะเดียวกัน ในฐานะเต็งหนึ่งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้รับการกะเก็งว่าจะสยบ เอซี มิลาน หรือ อินเตอร์ มิลาน ได้อย่างแน่นอนหากสามารถผ่านด่านสำคัญที่มีดีกรีเป็นแชมป์ 14 สมัยได้สำเร็จในเกมวันพุธหน้าที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

ในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์หูใหญ่ไปครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร พวกเขาจะได้สิทธิ์ลงเล่นรายการดังกล่าวทันทีในซีซั่นหน้าในฐานะแชมป์

ขณะเดียวกัน หาก เรือใบสีฟ้า ไม่พลาดท่าซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จอีกสมัย พวกเขาก็จะได้สิทธิ์ลงเล่นถ้วยหูใหญ่เช่นกันในฐานะทีมที่อยู่ในอันดับท็อปโฟร์ของลีก

ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดข้อสงสัยว่าทีมจากอังกฤษจะได้โควต้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เพิ่มเป็นห้าทีมหรือไม่หาก แมนฯ ซิตี้ ประสบความสำเร็จได้แชมป์ทั้งสองรายการใหญ่ดังกล่าว

ตามกฏของ ยูฟ่า มีการระบุว่าทีมจาก พรีเมียร์ลีก จะได้สิทธิ์ฟาดแข้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ทั้งหมดสี่ทีมซึ่งหาก แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ทั้งสองรายการที่ว่า โควต้าที่ห้าจะไม่ตกอยู่กับทีมในลีกอิงลิช แต่จะถูกส่งมอบให้กับชาติที่มีค่าสัมประสิทธิ์สูงที่สุดในรายการ เนชั่นส์ลีก ที่ไม่ได้สิทธิ์ฟาดแข้งรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก โดยอัตโนมัติซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค แชมป์ลีก ยูเครน จะถูกหวย อันหมายความว่าทีมอันดับห้าของตาราง พรีเมียร์ลีก จะได้สิทธิ์ฟาดแข้งถ้วย ยูโรปาลีก ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มเช่นเดิม

อย่างไรก็ดี ทีมจาก พรีเมียร์ลีก สามารถคว้าสิทธิ์ลงเล่นถ้วยหูใหญ่ในซีซั่นเดียวกันมากถึงห้ารายได้เช่นกันหากทีมที่ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ได้อยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์หลังจบซีซั่น

เจมส์ มิลเนอร์ กองกลางมากประสบการณ์ของ ลิเวอร์พูล ปฏิเสธข้อเสนอของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ก่อนจะตกลงสัญญาปากเปล่าย้ายไปเล่นให้ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในฤดูกาลหน้า

ดาวเตะจอมเก๋า วัย 37 ปี จะหมดสัญญากับ "หงส์แดง" ช่วงซัมเมอร์นี้ และดูเหมือนว่าเจ้าตัวตัดสินใจที่จะยุติช่วงเวลา 8 ปีในถิ่นแอนฟิลด์ เพื่อออกไปหาความท้าทายใหม่ในช่วงสุดท้ายอาชีพพ่อค้าแข้ง

มิลเนอร์ ซึ่งเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล มากกว่า 300 เกม มีโอกาสคว้าแชมป์กับต้นสังกัด 7 รายการ ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ชื่นชอบมากๆ เพราะสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง

ก่อนหน้านี้ อดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด เคยออกมาเผยความตั้งใจของตัวเองว่าอยากจะอยู่ค้าแข้งให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และหากถึงเวลาแขวนสตั๊ดก็จะหันไปทำงานโค้ชทันที

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ มิลเนอร์ ยังคงต้องการโลดแล่นอยู่บนสังเวียนหญ้าเขียวขจีต่อไปแม้วัยจะใกล้ 40 ปีแล้วก็ตาม โดยมีรายงานจากสื่อหลายสำนักระบุว่านักเตะพร้อมจะไปร่วมงานกับทีมของกุนซือโรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ซึ่งนักเตะได้ยอมรับข้อเสนอขั้นสุดท้ายจากทัพ "เดอะ ซีกัลส์" เรียบร้อยแล้ว

กระนั้นไม่ใช่แค่ ไบรท์ตัน ที่ยื่นข้อเสนอมาให้ มิลเนอร์ พิจารณา เพราะ "ฟุตบอล อินไซเดอร์" สื่อดังวงการลูกหนัง รายงานว่า เอฟเวอร์ตัน ก็พยายามโน้มน้าวใจนักเตะให้ย้ายมาเล่นในถิ่นกูดิสัน พาร์ค แต่สุดท้ายเจ้าตัวปฏิเสธแบบไม่ใยดี โดยคาดว่าเป็นเพราะไม่อยากเล่นให้กับทีมคู่อริร่วมเมืองของ "เดอะ เร้ดส์" นั่นเอง

โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ กุนซือทีม ไบรท์ตัน ชี้ชัดนักเตะเล่นกันผิดฟอร์ม และก่อความผิดพลาดถี่ยิบจนส่งผลให้แพ้ เอฟเวอร์ตัน คารังแบบขาดลอย 5-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เมื่อวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.

เด แซร์บี้ เพิ่งคุมทีมลงเล่นในบ้านคว่ำ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 มาหมาดๆ แต่เกมนี้พวกเขาโดน ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน ทีมในโซนล่างบุกมาอัดเละชนิดที่ตาข่ายขาดตั้งแต่นาทีแรก และนับจากนั้นก็ก่อความผิดพลาดอย่างต่อเนื่องจนต้องปราชัยไปแบบไม่มีลุ้น

"ผมคิดว่ามันยากที่จะอธิบายเกมนี้ มันแปลกมาก มันไม่ใช่ ไบรท์ตัน ที่แท้จริงหรือ ไบรท์ตัน ที่ปกติ เราเสียประตูแรกตั้งแต่ 30 วินาที มันเป็นวันที่เลวร้าย" กุนซืออิตาเลี่ยนเปิดปาก

"เราเล่นได้อย่างวิเศษ และวันนี้มันเป็น ไบรท์ตัน ที่แตกต่างไป เราไม่ได้เตรียมตัวรับมืออย่างถูกต้อง มันเป็นเรื่องยากที่เราลงเล่นสามเกมในหนึ่งสัปดาห์ เราไม่คุ้นกับการลงเล่นติดต่อกันหลายเกม"

"แต่หากคุณต้องการต่อสู้เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่ คุณต้องพัฒนาในจุดนี้ เรามีอันดับตารางที่ดี สไตล์การเล่นของเราไม่เป็นปัญหา แต่ผมต้องบอกตามตรงถึงจิตใจของเรา เราก่อความผิดพลาดด้วยสภาพจิตใจ"

"เราช้ากว่าพวกเขาในทุกๆสถานการณ์โดยเฉพาะในครึ่งแรก เราก่อความผิดพลาดอย่างง่ายดายหลายหน"

"เราต้องจำเกมนี้และวันนี้ให้แม่น 8 พ.ค. เพราะมันอาจเป็นวันสำคัญของเราหากเราสามารถพัฒนาจิตใจได้ เราต้องพร้อมสำหรับเกมหน้า"

"หากเราต้องการประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เราไม่อาจก่อความผิดพลาดแบบนี้หรือเล่นกันด้วยฟอร์มนี้"

"ผมยังภูมิใจกับนักเตะ ผมเป็นคนแรกที่ต้องรับผิดชอบ สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในเกมฟุตบอล หลังเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เราต้องเริ่มต้นคว้าชัยชนะกันใหม่อีกครั้ง"

"ผมโชคดีเพราะนักเตะของผมดีมาก พวกเขาเข้าใจแล้วว่าพวกเขาก่อความผิดพลาด และสามารถเล่นกันได้ดีกว่านี้"