(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/11/1d9a9110-b8f5-11ec-a96a-73b58e66f775_webp_original.jpg)
แมนซิตี้ 2-2 ลิเวอร์พูล | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำถึงสองครั้งสองครา แต่ก็ไม่สามารถเก็บชัยในบ้านได้ โดน ลิเวอร์พูล ไล่ตามตีเสมอได้ตลอด จบเกมเจ๊ากันไป 2-2 แบบสุดดุเดือด ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บเพิ่มเป็น 74 คะแนน ยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ส่วน "หงส์แดง" มี 73 คะแนน ยังไม่สามารถแซงขึ้นไปได้ ยังอยู่เป็นรองจ่าฝูง ทั้งสองทีมต้องลุ้นแชมป์กันในนัดที่เหลือของฤดูกาล
GOAL ... เริ่มครึ่งแรก เพียงแค่ 5 นาที แมนซิตี้ ก็ขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ทีมมาได้ลูกฟรีคิกบริเวณกลางสนาม แล้วฉวยโอกาสเล่นเร็วทันที บอลมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ หน้าเขตโทษ ก่อนจะสับไกยิงเน้นๆ ลูกไปแฉลบ โฌแอล มาติป พุ่งไปชนเสากระเด้งเข้าไปตุงตาข่ายแบบเด็ดขาด
(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/11/35113060-b8f5-11ec-a96a-73b58e66f775_webp_original.jpg)
GOAL ... นาทีที่ 13 ลิเวอร์พูล มาตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ โรเบิร์ตสัน ได้จังหวะเปิดบอลทางเขตโทษฝั่งซ้าย ลูกลอยไปถึง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่เติมขึ้นมาถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนตบกลับมาให้ ดิโอโก้ โชต้า วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ ส่งบอลผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 29 เรือใบสีฟ้า เกือบขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ ลาปอร์ต วางบอลยาวจากแดนตัวเองไปให้ คานเซโล่ ดึงบอลอยู่สองสามจังหวะ แล้วจ่ายมาให้ เดอ บรอยน์ หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะหมุนตัวยิงเร็ว ลูกพุ่งเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
นาทีที่ 35 เจ้าถิ่น ได้ลุ้นอีกแล้ว จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วางบอลยาวออกทางขวาให้ คานเซโล่ หลุดเข้าไปดูดบอลลง ก่อนกดเน้นๆ ทว่าลูกยังพุ่งไปปเข้าข้างตาข่าย อย่างน่าเสียดาย
GOAL ... นาทีที่ 37 แมนซิตี้ ขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ทีมมาได้ลูกเตะมุม บอลเปิดเข้ามาในเขตโทษ แนวรับหงส์แดง โหม่งสกัดออกมาเข้าทาง คานเซโล่ ก่อนจะวางกลับเข้าไปหน้าประตูอีกครั้ง และเป็น กาเบรียล เชซุส ที่วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแปเน้นๆ ลูกลอยข้ามตัว อลีสซง พุ่งไปชนคานกระเด้งเข้าไปตุงตาข่าย
(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/11/543d6210-b8f5-11ec-a96a-73b58e66f775_webp_original.jpg)
นาทีที่ 44 เรือใบสีฟ้า มีลุ้นนำห่าง จากจังหวะที่ โฟเด้น ได้บอลทางฝั่งซ้ายกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดเข้าไปหน้าประตู สเตอร์ลิง พยายามพุ่งเข้าชาร์จ ทว่าบอลพุ่งผ่านขาไปนิดเดียเท่านั้น ทำให้ชวดได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย
หมดครึ่งแรก แมนซิตี้ ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล 2-1
GOA.L .. กลับมาเตะกันต่อครึ่งหลัง เพียงแค่นาทีแรก ลิเวอร์พูล ก็มาตีเสมอ 2-2 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ซาลาห์ ได้บอลทางขวาเขตโทษ ก่อนจ่ายทะลุช่องเข้ากลางไปให้ มาเน่ หลุดเข้าไปยิงสวนตัว เอแดร์ซอน เข้าไปตุงตาข่าย
(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/11/6436e420-b8f5-11ec-aa4a-b9896adf215d_webp_original.jpg)
นาทีที่ 61 เรือใบสีฟ้า มาได้ลุ้นอีกชึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ เชซุส ได้บอลหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะล็อคหลอกแนวรับ หงส์แดง สองจังหวะ แล้วได้ซัดเน้นๆ ทว่า ก็ยังไปติดนักเตะทีมเยือน กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
VAR ... นาที่ 63 แมนซิตี้ มาส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ ได้บอลกลางสนามก่อนแทงทะลุช่องให้ สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนตัว อลีสซง ตุงตาข่ายแบบสุดสวย ทว่าเมื่อเช็คภาพจาก VAR แล้ว ลูกนี้เป็นการล้ำหน้า ทำให้โดนริบประตูคืน สกอร์ยังเท่าเดิม
(https://cms.dmpcdn.com/sportarticle/2022/04/11/7c0a7080-b8f5-11ec-a5cc-53e989c56e82_webp_original.jpg)
นาทีที่ 71 หงส์แดง เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ ซาลาห์ ได้บอลทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนลากตัดข้ากลางแล้วซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งไปแฉลบ ลาปอร์ต หลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น ทว่าจังหวะนี้ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าให้เป็นลูกเตะมุมแต่อย่างใด
ท้ายเกม แมนซิตี้ ครองเกมบุกได้ค่อนข้างเหนือกว่า พาบอลไปป้วนเปี้ยนที่หน้าเขตโทษหลายครั้ง ทว่าก็ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง
นาทีที่ 90 เรือใบสีฟ้า พลาดขึ้นนำเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ทีมมาได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา หน้าเขตโทษ และเป็น ริยาด มาห์เรซ ที่ปั่นโค้งบอลไปชนเสากระเด้งออกหลังอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บเพิ่มเป็น 74 คะแนน ยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ส่วน "หงส์แดง" มี 73 คะแนน ยังไม่สามารถแซงขึ้นไปได้ ยังอยู่เป็นรองจ่าฝูง ทำให้ทั้งสองทีมต้องลุ้นแชมป์กันในนัดที่เหลือ
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์ซอน โมราเอส (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, อายเมริก ลาปอร์ต, เชา คานเซโล่, เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง
ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดิโอโก้ โชต้า