ไม่ไหวจะเคลียร์ คณะกรรมการผู้ตัดสินอาชีพอังกฤษ (พีจีเอ็มโอแอล) ตกเป็นข่าวติดต่อไปหา ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยยอมรับว่าเกม พรีเมียร์ลีก ที่พวกเขาพ่าย ลิเวอร์พูล คารัง 6-1 มีจังหวะที่ หงส์แดง ไม่สมควรได้ประตูเนื่องจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาทีมเยือนทำแฮนด์บอลก่อน

ลีดส์ ถูกมองว่าได้รับการตัดสินที่ค้านสายตาในจังหวะที่พวกเขาเสียประตูแรกให้กับ โคดี้ กัคโป เนื่องจาก อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยกแขนขึ้นมาสัมผัสบอลก่อนแย่งไปทำชิ่งกับ โม ซาลาห์ แล้วแอสซิสต์ให้ดาวเตะทีมชาติ ฮอลแลนด์ สอยตาข่าย

ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งผู้ตัดสิน และวีเออาร์ยืนยันให้ เร้ด แมชีน ได้ประตูท่ามกลางความงุนงงของบรรดาคอมเมนเตเตอร์ซึ่งลงความเห็นตรงกันว่าสมควรเป็นลูกแฮนด์บอลตั้งแต่แรก

"จากภาพช้า เขายกแขนขึ้นมา ผมคิดว่ามันเป็นแฮนด์บอล" เบน มี กองหลัง เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งถูกเชิญให้เป็นคอมเมนเตเตอร์เกมเมื่อวันจันทร์ระบุ

กระทั่งล่าสุดเมื่อ 20 เม.ย. ริชาร์ด คีย์ส พิธีการรายการถ่ายทอดสดศึก พรีเมียร์ลีก ของช่อง บีอินสปอร์ตส์ เผยว่า พีจีเอ็มโอแอล ติดต่อไปหาทีม ยูงทอง แล้วโดยยอมรับว่าแบ็คขวา ลิเวอร์พูล ทำแฮนด์บอลจริง

"แหล่งข่าวบอกกับผมว่า พีจีเอ็มโอแอล บอกกับ ลีดส์ ว่าประตูที่ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ทำแฮนด์บอลไม่ควรเกิดขึ้น มันเป็นลูกแฮนด์บอล" คีย์ส เผย

ต่อการทำหน้าที่ของทั้งผู้ตัดสิน และวีเออาร์ใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งหลายทีมได้รับผลเสียมากน้อยแตกต่างกันไปนั้น มีการเผยว่านับตั้งแต่ต้นปี วูล์ฟส์ เป็นทีมที่ได้รับคำขอโทษจาก พีจีเอ็มโอแอล มากที่สุดโดยกุนซือ จูเลน โลเปเตกี ได้พบกับ ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ประธาน พีจีเอ็มโอแอล แบบซึ่งๆหน้าไปแล้วเมื่อเดือนม.ค.

อย่างไรก็ดี พีจีเอ็มโอแอล ยืนยันว่านับตั้งแต่จบศึก ฟุตบอลโลก การตัดสินของท่านเปามีข้อผิดพลาดที่น้อยลง และนับตั้งแต่เกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 17 จนถึงนัดที่ 30 มีการตัดสินที่ผิดพลาดเพียงแค่สี่ครั้งเท่านั้น

ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตหัวหอก ลิเวอร์พูล แสดงความมั่นใจว่า หงส์แดง มีโอกาสคว้าอันดับท็อปโฟร์สูงหลังบุกไปขยี้ ลีดส์ จมธรณีเนื่องจากโปรแกรมที่เหลืออยู่ของพวกเขาเบาสบายกว่าทีมคู่แข่ง

ลิเวอร์พูล เพิ่งกลับมาคว้าชัยชนะได้เป็นนัดแรกในทุกรายการด้วยการถล่ม ยูงทอง 6-1 นับตั้งแต่เปิดรัง แอนฟิลด์ ยำใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 ในเกมแดงเดือดโดย เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือด๊อยทช์ยืนยันว่าผลลัพธ์ที่ เอลแลนด์ โร้ด เป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้

จากชัยชนะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คล็อปป์ ยอมรับว่า เร้ด แมชีน ยังไม่สามารถคิดถึงการคว้าอันดับท็อปโฟร์ได้เนื่องจากทีมที่อยู่ในอันดับเหนือกว่าพวกเขาอาจเก็บสามแต้มในเกมที่เหลือได้โดยปัจจุบันทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์รั้งอันดับแปดของตารางโดยมีแต้มตามหลัง นิวคาสเซิ่ล ทีมอันดับสี่เก้าแต้มจากการลงสนาม 30 นัดเท่ากัน

อย่างไรก็ดี โอเว่น ซึ่งย้ายไปคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ออกโรงแสดงมุมมองว่า ลิเวอร์พูล จะคว้าอันดับท็อปโฟร์ได้เนื่องจากโปรแกรมที่เหลืออยู่เป็นใจให้อย่างยิ่ง

"มันเป็นโปรแกรมที่น่ารักไม่ใช่หรือ? ด้วยความเคารพ มันเป็นโปรแกรมที่น่ารักสำหรับพวกเขา และหากพวกเขาชนะทุกเกม พวกเขาก็จะได้อันดับท็อปโฟร์ ผมเชื่ออย่างนั้น" โอเว่น เอ่ยเมื่อ 18 เม.ย.

"แต่มันมีข้อแม้ว่าพวกเขาไม่คงเส้นคงวาเท่าไหร่ พวกเขาเป็นอย่างนี้มาตลอดซีซั่น แล้วจู่ๆพวกเขาก็ชนะแปดหรือเก้านัดติดต่อกัน"

อนึ่ง โปรแกรม พรีเมียร์ลีก อีกแปดนัดที่เหลือของ ลิเวอร์พูล มีดังนี้

22 เม.ย. : ฟอเรสต์ (เหย้า)

26 เม.ย. : เวสต์แฮม (เยือน)

30 เม.ย. : สเปอร์ส (เหย้า)

3 พ.ค. : ฟูแล่ม (เหย้า)

6 พ.ค. : เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า)

15 พ.ค. : เลสเตอร์ (เยือน)

20 พ.ค. : แอสตัน วิลล่า (เหย้า)

28 พ.ค. : เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ปฏิเสธที่จะยืนยันว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกชาวอียิปต์ จะยังคงได้รับหน้าที่มือ 1 ในการสังหารจุดโทษ หลังนักเตะยิงพลาดจังหวะสำคัญนี้ 2 ครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

"บังโม" ได้รับสิทธิ์เป็นตัวเลือกแรกในการทำหน้าที่มือปืนตะบันจุดโทษในช่วงหลายๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็มีสิทธิ์ที่สุดยอดสำหรับบทบาทนี้ อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเขาดันยิงพลาด 2 ครั้งในเกมแพ้ บอร์นมัธ 0-1 และเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 ส่งผลให้ตอนนี้สาวก "เดอะ ค็อป" ชักเริ่มหวั่นใจกับความนิ่งของ ซาลาห์

ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ เปิดเผยว่าเตรียมจะพูดคุยกับ "คิง ออฟ อียิปต์" เรื่องการทำหน้าที่ยิงจุดโทษ แต่ล่าสุด "เดอะ ไทม์ส" สื่อดังในอังกฤษ รายงานว่า นายใหญ่ชาวเยอรมัน ยังไม่ตัดสินใจว่าจะให้ ซาลาห์ รับหน้าที่สำคัญนี้ต่อไป หรือจะเปลี่ยนมือให้ผู้เล่นคนอื่นทำหน้าที่แทน

กระนั้นถ้าหาก สตาร์กองหน้าทีมชาติอียิปต์ โดนดร็อปจากการยิงจุดโทษ ก็ยังไม่รู้ว่า คล็อปป์ จะให้ใครรับช่วงต่อแทน โดยก่อนหน้านี้ เจมส์ มิลเนอร์ เคยแบกรับภาระสำคัญนี้ในช่วงแรกๆ ที่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ และยิงพลาดแค่ 2 ครั้งเท่านั้นนับตั้งแต่สวมชุด "หงส์แดง"

อย่างไรก็ตาม อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ไม่ได้รับหน้าที่สังหารจุดโทษอย่างถาวรนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2019 และก็ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงตัวจริงมากนักในช่วงที่ผ่านมาด้วย กระนั้น คล็อปป์ ยังคงมีตัวเลือกหลายคนที่พร้อมตะบันจุดโทษอย่างเช่น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นต้น

วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้าชาวบราซิล ของ เรอัล มาดริด ยกย่อง คาร์โล อันเชล็อตติ ว่า เป็นกุนซือที่เก่งที่สุดในโลก และหวังร่วมงานด้วยทั้งกับสโมสรและทีมชาติ

วินิซิอุส ทำผลงานสุดร้อนกับเรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ อันเชล็อตติ โดยยิงไปแล้ว 21 ประตู พร้อมทำอีก 16 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 45 นัดรวมทุกรายการ

ล่าสุดกองหน้ารายนี้ออกมาพูดถึงกุนซือของทีมราชันชุดขาว ว่า

"อันเชล็อตติคือโค้ชที่เก่งที่สุดในโลกสำหรับผม และสำหรับทุกคนในทีม หวังว่าเขาสามารถสอนผมได้ทั้งกับเรอัล มาดริด หรือ กับทีมชาติบราซิล"

โลร็อง เอตาเม่ ปลุกเร้า อาร์เซน่อล ให้รับมือกับความกดดันให้ดีกว่านี้ โดยบอกว่ามันต้องจัดการกับแรงกดดันให้ได้ในระดับที่สมบูรณ์แบบหากหวังที่จะเป็นแชมป์

โลร็อง เอตาเม่ อดีตแบ็กขวาชาวแคเมอรูน กระตุ้น อาร์เซน่อล ให้รับมือกับความกดดันให้ดีกว่าเดิม เพื่อที่จะได้ส่งผลให้ทีมได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2022-23 ไปครอง

ซีซั่นนี้ อาร์เซน่อล ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจนส่งผลให้พวกเขากำลังนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนด้วยผลงาน 73 แต้มจากการลงเล่น 30 นัด มากกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นอันดับ 2 อยู่ 6 คะแนน แต่ทาง "เรือใบสีฟ้า" ลงเล่นน้อยกว่าอยู่ 1 นัด แถมทั้ง 2 ทีมยังมีโปรแกรมที่ต้องเจอกันเองอีก

โลร็อง ซึ่งเคยเล่นให้ อาร์เซน่อล ระหว่างปี 2000-2007 เผยว่า "ตอนนี้ อาร์เซน่อล รับมือกับความกดดันได้ระดับ 9/10 คะแนน แต่การที่จะเข้าเส้นชัยแล้วคว้าแชมป์มาครองได้น่ะพวกเขาจำเป็นต้องไปให้ถึงระดับ 10/10 คะแนน และเก็บ 3 แต้มให้ได้ในทุกนัด ไม่ใช่ทำพลาดอย่างในเกมที่ แอนฟิลด์ (เสมอ 2-2 ทั้งที่ อาร์เซน่อล นำไปก่อน 2-0)"

ร้อนถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้ต้องอัปเดตอันดับตาราง พรีเมียร์ลีก หลังจบซีซั่น 2022/23 อีกครั้งหลังจาก อาร์เซน่อล ทำได้แค่บุกไปเสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 ในเกมบิ๊กแมตช์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจนเชื่อกันว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีม ปืนใหญ่ ต้องสวาปามแห้ว

อาร์เซน่อล สร้างผลงานในซีซั่นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม และนำหน้าเป็นจ่าฝูงได้อย่างยาวนานถึงขนาดสามารถเปลี่ยนใจร้านรับพนันให้ปรับอัตราต่อรองยกให้พวกเขาเป็นเต็งแชมป์ พรีเมียร์ลีก เหนือ แมนฯ ซิตี้ ได้ในช่วงที่ผ่านมา

กระทั่งล่าสุดหลังจบเกมที่ แอนฟิลด์ ร้านรับพนันปรับอัตราต่อรองอีกรอบให้ เรือใบสีฟ้า แซงนำเป็นเต็งหนึ่งแทนแล้วหลังจาก เดอะ กันเนอร์ส เก็บได้แค่แต้มเดียวในเกมล่าสุด และขยับหนีทีมรองจ่าฝูงได้แค่หกแต้มเนื่องจากทั้งสองทีมมีคิวลงเล่นกันที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม และเป็นที่มองกันว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะกำชัยได้ทุกนัดจนสามารถโกยแต้มแซงทีมเมืองหลวงเข้าป้ายได้สำเร็จโดยอาจถึงขั้นวัดกันด้วยผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า

กระนั้นก็ดี bettingexpert.com ได้นำซูเปอร์คอมพิวเตอร์มาคำนวณอันดับตาราง พรีเมียร์ลีก หลังจบซีซั่นอีกรอบเมื่อ 10 เม.ย. และปรากฏว่า อาร์เซน่อล จะสมหวังได้แชมป์ไปเชยชมด้วยการเฉือนชนะ แมนฯ ซิตี้ ไปแบบหวุดหวิดแค่แต้มเดียว

สำหรับการแย่งชิงอันดับท็อปโฟร์ นิวคาสเซิ่ล จะคว้าอันดับสามโดยมี แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อันดับสี่ ขณะที่ สเปอร์ส , ไบรท์ตัน  และ ลิเวอร์พูล อยู่ในอันดับรองลงมา

ส่วนสามทีมที่จะตกชั้นจากการคำนวณของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประกอบไปด้วย เลสเตอร์ , ฟอเรสต์ และ เซาธ์แฮมป์ตัน

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฟูลแบ็กจอมบุก ลิเวอร์พูล ยอมรับพอใจกับฟอร์การเล่นของทัพ "หงส์แดง" ที่ไล่ตีเสมอ อาร์เซน่อล 2-2 ที่สนามแอนฟิลด์ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา

ทีมเยือนทำผลงานได้อย่างดุดันโดยซัดประตูนำไปก่อน 2 ลูกจาก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ กาเบรียล เชซุส อย่างไรก็ตามเจ้าบ้านค่อยๆ รวมพลังประจัญบานและได้ประตูตีไข่แตกจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ขณะที่ครึ่งหลัง "เดอะ เร้ดส์" ครองเกมได้เหลือกว่าสร้างจังหวะอันตรายได้หลายครั้ง และมาได้จุดโทษ แต่ "บังโม" ยิงออกไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามพวกเขามาตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะการเปิดบอลของ "หนุ่มเทรนต์" ที่ให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ โหม่งเข้าไป จบเกมเสมอกันไปอย่างสุดมัน 2-2

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดใจว่า "มันเป็นเกมฟุตบอลที่สุดยอดมากๆ เราเริ่มต้นไม่ค่อยอย่างที่เราต้องการ แต่เราแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น และสร้างโอกาสสำคัญเพื่อหวังที่จะเก็บชัยชนะให้ได้"

"เราขาดความกระตือรือร้นในช่วงต้นเกม แต่หลังจากนั้นจบกระทั่งจบครึ่งแรก เราเริ่มเล่นตามแนวทางที่เราต้องการ และเรากลายเป็นทีมที่เหนือกว่าในครึ่งหลัง เรามีสมาธิอยู่กับเกม และพยายามที่จะไล่กดดันพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"

"ทุกๆ เกมเราต้องการสามคะแนน แต่เราแสดงให้เห็นแล้วว่าเราสามารถที่จะสู้กับทีมที่แกร่งที่สุดในลีกได้อย่างถึงพริกถึงขิง" แบ็กขวาจอมแอสซิสต์ทีมชาติอังกฤษ กล่าวทิ้งท้าย

เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุบสถิติ เชส ฟาเบรกาส ขึ้นแท่นเป็นผู้เล่นที่ทำครบ 100 แอสซิสต์ เร็วสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก เรียบร้อย แถมเป็นแข้งรายที่ห้า ที่ทำแอสซิสต์แตะหลักร้อย

เควิน เดอ บรอยน์ ยอดกองกลางชาวเบลเยียมของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นผู้เล่นที่ทำครบ 100 แอสซิสต์ เร็วสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก โดยใช้เวลาแค่ 237 เกมเท่านั้น หลังล่าสุดจัดหนึ่งแอสซิสต์ ช่วยทัพ "เรือใบสีฟ้า" บุกถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา

ถือเป็นการทุบสถิติเดิมของ เชส ฟาเบรกาส ที่ทำครบ 100 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 293 เกม นอกจากนี้ เดอ บรอยน์ ยังเป็นผู้เล่นรายที่ห้าในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ทำแตะหลัก 100 แอสซิสต์ ต่อจาก ไรอัน กิ๊กส์ (162), เชส ฟาเบรกาส (111), เวย์น รูนี่ย์ (103) และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด (102) อีกด้วย

สรุป 5 อันดับแรก ผู้เล่นที่ทำครบ 100 แอสซิสต์ เร็วสุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

1. เควิน เดอ บรอยน์ : 237 เกม

2. เชส ฟาเบรกาส : 293 เกม

3. ไรอัน กิ๊กส์ : 367 เกม

4. เวย์น รูนี่ย์ : 445 เกม

5. แฟร้งค์ แลมพาร์ด : 559 เกม

รอย คีน ตำนานกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รับบทนักวิเคราะห์ของ สกาย สปอร์ตส์ ชื่นชมการทำงานแบบคนจริงของกุนซือผีแดงอย่าง เอริก เทน ฮาก ว่าช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานเชิงบวก จากเมื่อก่อนเป็นทีมจอมคอนเทนต์มีแข้งสายล่อฟ้าให้ชาวเน็ตโจมตีอยู่เสมอ

"เมื่อผู้จัดการทีมคนนี้ก้าวเข้ามาสู่สโมสร สถานการณ์ของทีมยังทุลักทุเล เรายังพูดเรื่องการคัดสรรบุคลากรดีๆมาเสริม แต่หากถามใจผมจริงๆ สิ่งที่ให้ทีมทรงดีในซีซันนี้เพราะมีนักเตะ 5-6 ราย ย้ายออกไป" คีน แสดงความเห็น

"ผมไม่ได้เหมาว่าพวกเขาทั้งหมดคือตัวปัญหาอย่าง ปอล ป็อกบา, ฆวน มาตา, เนมานยา มาติช, เจสซี ลินการ์ด พวกที่รู้ชะตาว่าไม่ได้อยู่ต่อแน่ๆ พวกเขาทราบว่าต้องย้ายออกเมื่อสัญญากำลังจะหมด ก็เลยเล่นแบบเช้าชามเย็นชาม"

"ถึงตอนนี้ชัดเจนว่าทีมสัมผัสถึงพลังงานใหม่, ผจก.ทีมใหม่, ค่อยๆตบให้เข้าที่หลังจากเปิดหัวซีซันแย่"

"ถึงตรงนี้ ผมรับรู้ถึงโมเมนตัมดีๆ ปัจจัยดีๆที่กลับสู่สโมสร ซึ่งระดับพลังงานมันต่างออกไปเลย"

ดิ อินดิเพนเดนต์ สื่อเมืองผู้ดีประโคมข่าวว่า เชลซี มีแผนดึง อันโตนิโอ คอนเต้ อดีตกุนซือกลับมารับงานคุมทีมอย่างถาวรเป็นคำรอบสองในระหว่างรอการประกาศแต่งตั้ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ให้รับภาระนายใหญ่ขัดตาทัพไปจนจบซีซั่น

เชลซี กำลังมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่หลังปลด แกรม พ็อตเตอร์ ออกไปแล้วโดยมอบหน้าที่ให้ บรูโน่ ซัลตอร์ ผู้ช่วยของอดีตผู้จัดการทีม ไบรท์ตัน รับบทคุมทีมแบบขัดตาทัพในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 0-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี คาดว่า ซัลตอร์ จะได้ทำงานแค่นัดเดียวเนื่องจาก แลมพาร์ด เข้ามาดูเกมดังกล่าวด้วย และกลายเป็นว่า สิงห์บลูส์ มีแผนตั้งเขาให้เป็นกุนซือขัดตาทัพไปจนจบซีซั่นประกอบกับมีรายงานว่าเศรษฐีลอนดอนเปิดฉากเจรจากับ หลุยส์ เอ็นรีเก้ อดีตกุนซือทีมชาติ สเปน ซึ่งถูกระบุว่าบินมาที่ลอนดอนแล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

กระทั่งล่าสุดเมื่อ 6 เม.ย. ดิ อินดิเพนเดนต์ รายงานว่า เชลซี ติดต่อไปหา คอนเต้ แล้วหวังให้เขากลับมาคุมทีมอีกรอบเนื่องจากมองว่าผู้จัดการทีมอิตาเลี่ยนมีคุณสมบัติสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้เหมือนคราวแรกที่อดีตนายใหญ่ทีม สเปอร์ส พา สิงห์บลูส์ ซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2016/17 และแชมป์ เอฟเอคัพ ซีซั่น 2017/18

สื่อเจ้าดังกล่าวเสริมว่าหลังติดต่อไปหา คอนเต้ หนแรกแล้ว พวกเขาก็หวังได้เจรจากับยอดกุนซือวัย 53 ปีโดยตรงในเร็วๆนี้เพื่อเปิดฉากพูดคุยกันอย่างจริงๆจังๆเนื่องจากนายใหญ่ชาวเมืองมะกะโรนีรู้ถึงโครงสร้างของสโมสรดีจากที่เคยทำงานให้กับทีมเงินถังของเมืองผู้ดีมาก่อนสองปีระหว่างปี 2016-2018